ำไมผมถึงศรัทธาอาจารย์หนู  กันภัย   ... โดย พิริยะ  ตระกูลสว่าง
 
 

 

 

 

 

 

       การทำความดีไม่หายไปไหน เสมือนหยดน้ำที่ค่อยๆหยดทีละน้อย

พ่อหนู กันภัย

  
ทำไมผมถึงศรัทธาอาจารย์หนู  กันภัย
 

  ในชีวิตของคนๆหนึ่ง จะมีสิ่งที่เคารพนับถือมากๆสักกี่อย่าง ส่วนใหญ่ก็จะนับถือตามบิดามารดา หรือตามผู้ที่ได้เลี้ยงดูมา ส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เก่งกล้าวิชาพุทธาคมด้านต่างๆ ส่วนสายฆราวาทก็มีจำนวนไม่น้อย และส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ที่ต้องกระทำวิชาบางอย่างที่ภิกษุไม่สามารถกระทำให้ญาติโยมได้ เพราะอาจผิดวินัยสงฆ์

  ผมได้ยินชื่อของฆราวาทผู้เก่งกล้าด้านการสักยันต์ท่านหนึ่งมานานแล้ว ท่านคืออาจารย์หนู กันภัย แม้ว่าส่วนตัวของผมมีความคิดว่าจะไม่สักบนผิวของร่างกายแน่นอน แต่ก็ติดตามข่าวของ อ.หนู เป็นระยะๆ ซึ่งท่านก็โด่งดังในช่วงที่ดาราสาวฮอลีวูดมาสัก นั่นก็คือ แองโจลีนา โจลี นั่นก็ทำให้หลายคนรู้จักกับสำนักสักยันต์อาจารย์หนูมากขึ้น ทั้งตลก ดารา พ่อค้า ประชาชน ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ก็มาสักเพิ่มมากขึ้น นั่นด้วยเพราะแรงของพลังศรัทธา 
 

   ในส่วนเรื่องของการสักยันต์ มีผู้รู้บอกเล่าไว้ว่า เมื่อครั้งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพาน พระบรมสารีริกธาตุก็ได้ถูกแย่งไปตามฝ่ายต่างๆ ทหารชั้นผู้น้อยก็สามารถแย่งชิงได้เพียงเถ้ากระดูกมาเพียงเล็กน้อย และเพื่อป้องกันการสูญหายหรือถูกแย่งชิงจึงได้นำมาสักบนผิวกาย ด้วยหัวใจของคำสอนของพระพุทธเจ้า ย่อมาเป็นอักขระ ด้วยบารมีแห่งพุทธองค์ และพลังศรัทธาจึงทำให้เกิดมโนยิธฐิ  ความหึกเหิม เข้าต่อสู้ฟาดฟัน ครั้งเวลาผ่านได้ จึงมีการนำว่านต่างๆมาผสมกับสีหมึกธรรมชาติ สักเป็นอักขระต่างๆ และมีการคิดค้นภาพต่างๆประกอบกับคาถาอาคมมากำกับ สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน

   ผมเองก็เป็นคนชอบท่องคาถาต่างๆมาตั้งแต่เด็ก โดยท่องตามตำราหนังสือสวดมนต์ต่างๆ เมื่อนานเข้า จึงสนใจในลายของอักขระต่างๆ ทั้งเป็นอักษรขอม และอักษรล้านนา เมื่อครั้งได้บวชเป็นเณร (บวชอธิษฐานให้แม่หายป่วยจากโรคมะเร็ง) พระอาจารย์สอนว่า คาถาต่างๆไม่มีผลไม่มีฤทธิ์ หากจิตไม่มีสมาธิ ซึ่งท่านก็เป็นครูบาอาจารย์สายวัดป่า ไม่สนใจเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว ผมเลยได้ข้อคิดว่า "จิตของเราต่างหากที่มีพลัง" เพียงแต่ถาคาอาคมนั้นจะมีฤทธิ์ เมื่อเราเข้าใจความหมายบ้าง เท่านั้นเองอ.หนู กันภัย

   ผมฝากตัวเป็นศิษย์เรียนอักขระล้านนากับ พระอาจารย์สยาม  สิริปํญโญ วัดดอยจำค่า จ.แพร่ ซึ่งท่านก็จับมือสอนเขียน "นะ โม พุท ธา ยะ สิ ธัง" น่าแปลกตรงที่ว่า ก่อนหน้านี้ ผมซื้อตำราเรียนอักษรล้านนา (ตั๋วเมือง) ลองหัดขีดเขียน ก็เขียนไม่ได้สักที แต่หลังจากฝากตัวเป็นศิษย์พระอาจารย์แล้ว สามารถเขียนได้ไม่ผิดเพี้ยน ที่นี้ก้พยายามหาผ้ายันต์ไว้ลองหัดอ่าน ก็ปรากฏว่าเป็นอักษรขอมเสียส่วนใหญ่ จึงกลับลำ มาหัดขีดหัดเขียนหัดอ่านตัวขอม อ่านได้บ้างไม่ได้มาก แต่ก็พอรู้ ซึ่งลายยันต์ที่ปรากฏในนิตยสารโสฬสมงคล และเล่มอื่นๆ มาเป็นครู เป็นตำราบ้าง

   นั่นคือจุดเริ่มต้นว่า ทำไมถึงศรัทธาท่าน อ.หนู เพราะในนิตยสารได้บอกว่า เงินที่ได้จากการสักและบูชาวัตถุมงคลของอาจารย์ ท่านก็นำไปสร้างวัด สร้างวิหาร ช่วยเหลือศพอนาถา ผู้ยากไร้ และช่วยเหลือผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานที่ต้องการค่ารักษากว่าสี่หมื่นบาท แต่ทางอาจารย์ก็มอบวัตถุมงคลที่มีมูลค่ากว่าห้าหมื่นบาทในชายคนนั้นนำไปให้ผู้สนใจบูชา โดยส่วนที่เพิ่มเติมขึ้นมาก็ให้ไว้เป็นเงินดำรงชีพ ผมพูดตามตรงว่า ให้เงินคนอื่นห้าร้อย ยังคิดแล้วคิดอีก แต่ท่านอาจารย์หนูสามารถให้คนที่ไม่รู้จักห้าหมื่นบาท โดยไม่ขออะไรตอบแทนกลับมาเลย นั้นแสดงให้เห็นว่า อาจารย์หนู เป็นผู้ให้คนหนึ่ง

   ด้วยแรงศรัทธาที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ไปแอบอ่านความเห็นต่างๆของลูกศิษย์ในสำนักที่เข้ามาพูดคุยในเว็บ arjannoo.pantown.com นานนับเดือนโดยมิได้ไปร่วมตอบร่วมถามร่วมแสดงความคิดเห็น เพราะเราเองยังไม่ได้ฝากตัวเป็นศิษย์เลย จนกระทั่งได้มีโอกาสซื้อหนังสือที่แถมผ้ายันต์ห้าแถวมาจากร้านสะดวกซื้อ รวมไปถึงผ้ายันต์ฉัตรเพชร และเหรียญห้าแถวนะมหาสำเร็จกินไม่รู้สิ้นมาจากร้านสะดวกซื้อ ก็เลยถือว่าตนเป็นศิษย์อาจารย์หนูเหมือนกัน (แต่เป็นศิษย์ข้างสำนักนะครับ) จนกระทั่งวันหนึ่ง ได้บูชาเหรียญหลวงปู่ทวด หลังยันต์ห้าแถว ซึ่งท่าน อ.หนู มอบให้พระใบฎีกาเทียนชัย สุภัทโท เจ้าอาวาสวัดแม่ตะไคร้ฯ อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ แล้วเกิดปาฏิหาริย์ขึ้นคือเรื่องที่คาดหวังไว้นานปี ก็ใกล้สำเร็จ จึงได้ปวารณาว่า จะช่วยประชาสัมพันธ์จนกว่าหลวงปู่ทวดจะสร้างเสร็จ โดยนำข้อมูลต่างๆไปไว้ใน www.champ108.com ซึ่งก็มีผู้ให้ความสนใจสั่งจองผ่านเว็บพอสมควร ยังไงก็อนุโมทนากับทุกท่านด้วยนะครับ และที่สำคัญ เหรียญ 5 แถว นะมหาสำเร็จกินไม่รู้สิ้นอีก 2 เหรียญ ที่คุณ PP จากเว็บอาจารย์หนูให้เป็นรางวัลจากการโหวต ผมเองก็เล่าเรื่องที่ประสบมาในรูปแบบของกลอน 8 ยังไงก็ขอบพระคุณคุณ PP คุณดาว(สาวใจดี) และสมาชิกทุกท่านที่ร่วมโหวตนะครับ

ห้าแถว

     อาจเป็นเรื่องบังเอิญหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ ที่ทาง ก.พ. จัดสอบที่เมืองทองธานี ในวันที่ 30 ส.ค. 2552 ทำให้มีโอกาสได้เข้าไปในสำนัก โดยออกเดินทางเช้าวันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม 2552 เวลา 09.00 น. จากพิษณุโลก ซึ่งความบังเอิญอีกเรื่องก็คือรุ่นพี่โรงเรียนก็ไปสอบด้วย และเขาเคยอาศัยอยู่ใกล้ๆหมู่บ้านพูลศรี พี่คนนั้นอาสาพาไปหาที่พัก โดยลงรถที่ฟิวเจอร์ฯ แล้วนั่งรถสองแถวไปลงที่ตลาดจาตุศร แล้วนั่งรถเมล์ข้ามสะพานนวลฉวี เข้าปทุมสายใน ลงหน้าหมู่บ้านพูลศรี แล้วต่อมอเตอร์ไซต์รับจ้างไปอีก ไปพบครูไก่ก่อนคนแรก (ก่อนหน้านี้โทรสอบถามไปยังท่านพระอาจารย์เทียนชัย ท่านบอกว่าให้ไปหาคุณเก่ง แล้วบอกว่า มาจาก champ108 แต่ครูไก่บอกว่า คุณเก่งออกไปข้างนอก) เลยขอขึ้นไปกราบพ่อหนู แจ้งความประสงค์ว่า จะนำกลอนมาบูชาครู ครูไก่ก็บอกให้ขึ้นไปพบพ่อ เมื่อขึ้นไปเห็นพ่อหนูกำลังเสกเป่าให้สาวคนหนึ่ง เมื่ออ่านชื่อที่สกีนข้างหลังก็รู้ว่า อ๋อ พี่จ๋อม แห่งบ้านกันภัย ผู้ช่วยคุณสมิงคับทา(ครูพี) กำลังให้พ่อลงอักขระอยู่ นั่งอยู่ได้สักพักจึงตัดสินใจไปหาครูที่กำลังนั่งว่างๆก็อยู่ ครูเจมส์รู้เรื่องจึงตะโกนบอกพ่อว่า "พ่อครับ มีคนเอาแต่งกลอนมาให้" พ่อมองมาแล้วบอกว่า "ดีมากเลยลูก ดีมากเลย" ตอนนั้นผมดีใจมาก ครูบอกว่า เดี๋ยวเอาไปอ่านให้พ่อฟังนะ อ่านดังๆ ผมก็นึกว่าครูเค้าคงพูดเย้าเล่น เพราะคิดว่าพ่อหนู คงไม่มีเวลาว่างให้เรามากขนาดนั้น และเราก็ไม่ได้มาสักโดยตรงด้วย เมื่อพ่อเสกของคุณจ๋อมเสร็จ ก็เรียกให้ทุกคนมาเป่าหัวพรมน้ำมนต์พร้อมกัน เสร็จแล้ว พ่อก็เรียกให้ผมเข้าไปพบ ผมดีใจมาก ผมคิดในใจว่า"โอ ผมได้เข้าใกล้อาจารย์หนูมากขนาดนี้เลยเหรอ" รีบเข้าไป พ่อก็บอกว่า "อ่านกลอนให้ฟังหน่อย" ผมก็กลัวว่าจะไม่ได้รูปสำคัญนี้ ก็เกร็งๆ เก๊กนิดหน่อย จนพ่อบอกให้อ่านต่อ ตอนนั้นทั้งตื่นเต้นทั้งเกร็ง มารู้ตอนหลังว่า หลายคนก็เงียบฟังผมอ่าน เมื่ออ่านจบผมมอบให้พ่อหนู เพื่อเป็นการบูชาครู และขอเมตตาให้พ่อหนูลงตัวอิ พ่อก็ลงให้ ผมรับรู้เลยว่า ทำไมใครๆเค้าถึงมาขอยันต์เมตตาจากพ่อ เพราะพ่อมีความเมตตาอยากมาล้นนั้นเอง จากนั้นผมก็ขอถ่ายรูปร่วมกับพ่อ พ่อก็อนุญาต พ่อบอกว่า "ขอให้รวยๆนะ" พ่อคงรู้ครับ ว่าผมเป็นครูชั้นผู้น้อย ยังไม่ร่ำรวย และพ่อก็คงต้องการให้รวยๆๆ ตอนนั้นตื่นเต้นจำรายละเอียดมาไม่ครบ แต่เพื่อนที่ไปด้วยกันบอกว่า ตอนที่พ่อหนูถามว่า มากจากไหนกันละลูก เมื่อผมตอบไปว่า มาจากพิษณุโลกครับ พ่อทำท่าตกใจเล็กน้อย ประมาณว่ามาไกล และตอนที่กำลังอ่านกลอนนั้น พ่อหลับตาฟัง เมื่อถึงตอนไหนที่ตรงใจ พ่อก็พยักหน้าเบาๆ หลังจากถ่ายรูป พ่อหนูเรียกพวกผมเข้าไปเป่าหัวพรมน้ำมนต์อีกครั้ง และมอบภาพที่ด้านหลังเป็นยันต์ขนาดเท่ากระดาษ a4 ที่แจกให้ทุกๆคนเมื่อมาสักหรือเป่าหัว ผมขอกราบลาพ่อ เพราะเห็นว่ามีคนอื่นเค้ารออยู่ ไปไหว้ลาครูทุกคน และขอบูชาภาพยันต์ขนาดใหญ่ (ยาว 36 นิ้ว) ภาพยันต์นี้ตั้งใจว่าจะนำไปติดตอนมีบ้าน ตอนนี้บูชายันต์มาแล้ว เดี๋ยวก็คงจะได้บ้านละครับ ครูเจมส์ถามว่า นี่เรามาจากพิษณุโลกเพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะเหรอ ผมบอกว่าครับ ครูเจมส์เลยเปิดลิ้นชัก นำภาพยันต์สำหรับทำล๊อกเก็ตและมีหลวงปู่ทวดองค์เล็กๆมอบให้ เมื่อลงมาจากสำนัก ขณะที่นั่งรอวินมอเตอร์ไซต์อยู่ ผมเห็นพี่จ๋อมกำลังขนของอยู่ เลยเข้าไปทักทาย เมื่อมองใกล้ๆพี่จ๋อมสวยมากเลยครับ ผมเห็นที่เอวพี่เค้าห้อยเสือเหลียวหลังด้วย (พี่เค้ายิ้มน่ารักมากเลยละครับ) พี่จ๋อมมอบภาพยันต์ให้ 1 แผ่นและมีหลวงปู่ทวดองค์เล็กๆอีกองค์

 

ยันต์ห้าแถว

   หลายท่านอาจศรัทธาพ่อหนูเพราะรอดตายอย่างปาฏิหาริย์ บางท่านอาจประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน บางท่านอาจได้โชคลาภหลังสักยันต์ สำหรับผม ผมศรัทธาเพราะท่านมีเมตตาอย่างไม่เลือกหน้า ไม่เลือกรวยจน ไม่เลือกว่าคนธรรมดา หรือดารา ใครจะบอกว่าต้องมีเงินหมื่นถึงจะไปที่สำนักได้ ถ้าไม่มีจะถูกไล่ลงมาแทบไม่ทัน ผมขอยืนยันว่าไม่จริง เพราะวันนั้น ผมมีติดตัวเพียงสองพันกว่าบาทซึ่งเป็นค่าข้าว ค่ารถกลับพิษณุโลกเท่านั้น กลับได้รับเมตตาจากพ่อไม่ต่างจากคนอื่นๆเลย

   คงไม่ผิด ที่เราจะเชิดชูผู้มีเมตตาเสมอเหมือนพ่อของเราอีกคน... พ่อหนู  กันภัย

บูชาวัตถุมงคลสำนัก อ.หนู กันภัย จากสำนักโดยตรง แท้ 100%

ประกาศจากสำนักอาจารย์หนู  กันภัย ลายยันต์หนุนดวงห้าแถวของแท้ จะมีการสักให้เพียงที่สำนักของอ.หนู  กันภัย เท่านั้น
ส่วนวัตถุมงคลที่เป็นยันต์ห้าแถว สามารถสอบถามได้ที่สำนักเพียงที่เดียว หรือฝ่ายประชาสัมพันธ์ทางเว็บไซต์ (champ108.com)

สอบถามเพิ่มเติม 02-9752799
(แจ้งข่าวจากสมาชิกเว็บอาจารย์หนูครับ)

ป.ล. ข้อเขียนนี้เขียนขึ้นจากความรู้สึก อาจไม่ถูกต้องตามหลักภาษา แต่ก็เขียนจากใจ หากนำไปเผยแพร่ กรุณาทำลิงค์อ้างอิงด้วยนะครับ ขอบคุณครับ 

   
 

โปรดสนับสนุนเรา ด้วยการทำ Link มาหาเราครับ  counter   หยดน้ำแห่งความคิด      ดินแดนปัญญาชน