ประกาศเด็กหาย ด.ญ.นวรัตน์  น้อยมั่น (โมเม)

ชั้น ม.1 โรงเรียนวัดยางแขวนอู่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก

 

เจอน้องโมเมแล้วครับ !!!!

กราบขอบพระคุณทุกท่านนะครับ

  :: Update ข้อมูล ::
  • 15 ก.ย. 54 (20.37 น.) วันนี้ผมเข้าไปถามข้อมูลจากโมเมแล้วนะครับ และยังได้ประสบการณ์ดีๆอีกเรื่องหนึ่ง ผมเชื่อว่าเป็นเรื่องของการทำความดีครับ อยากให้อ่านกับครับ http://seal2thai.blogspot.com/2011/09/blog-post_15.htmlคลิกเลย
  • สัมภาษณ์โมเม

  • 14 ก.ย. 54 (18.53 น.) ตอนนี้เจอน้องโมเมแล้ว ตำรวจครบคุมตัวที่นครสวรรค์ ขณะนี้กำลังตรวจร่างกายที่ โรงพยาบาลบางระกำ ครูแชมป์ขอกราบขอบพระคุณทุกท่านที่ช่วยเหลือนะครับ .... ตอนนี้ ดีใจสุดๆครับ
  •  13 ก.ย. 54 (08.25 น.) ผมโทรไปหาแม่ของโมเม เพื่อสอบถามรายละเอียดที่แท้จริง หลังจากที่หลายๆกระแสพูดไม่ตรงกัน ทราบว่า สามารถติดต่อครั้งหลังสุดเมื่อ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยคนที่พาให้ให้โมเมพูดสายด้วย แม่ถามว่า คนที่พาไปตีหรือไม่ ... โมเมตอบว่า ไม่ตี ... แล้วหนูกินข้าวอิ่มไหม กินข้าวกับอะไร ... โมเมตอบว่า อิ่ม กินข้าวมันไก่ ... แล้วหนูอยากกลับบ้านไหม... โมเมบอกว่า อยาก แต่คนพาไปยังไม่พากลับบ้าน... แล้วก็ถูกถึงโทรศัพท์ไป ก่อนวางสายคนพาไปบอกว่า โมเมสบายดี ตอนนี้เล่นกับหมาอยู่ (แม่บอกว่า ได้ยินเสียงเล่นกับหมาจริง แต่ก็รีบตัดสายไป)

       ถ้ามองในแง่ดี เราก็อาจสบายใจได้บ้างที่ไม่เกิดเรื่องร้ายๆแบบที่เรากลัว แต่นั่นคือครั้งสุดท้ายที่ติดต่อได้ หลังจากนั้น ก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย ผมก็ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ช่วยกันทุกวิถีทางทั้งโพสต์ข้อมูลผ่านเครือข่ายสังคมและส่งต่อทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ทางตำรวจก็ทำงานของเขาเต็มที่ แต่เวลาที่ผ่านไปทุกวินาทีคือความปลอดภัยของเด็ก ผมรบกวนทุกท่านด้วยนะครับ (ผมรบกวนส่งข้อมูลให้กับทางตำรวจโดยตรง เพราะมีพี่คนหนึ่งบอกว่า กรณีของน้องพอมแพม มีคนไม่หวังดีสวมรอยให้ข่าวเพื่อหวังเงินรางวัล.... ยังจะหวังหาประโยชน์จากคนที่เดือดร้อน แบบนี้ไม่ใช่คนแล้ว) ยังไงช่วยกันนำโมเมกลับบ้านหน่อยนะครับ
  •  

 

 ประกาศเด็กหาย

   "โมเม" เด็กหญิงนวรัตน์  น้อยมั่น อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม. 1 โรงเรียนวัดยางแขวนอู่ เป็นลูกศิษย์ของผมเอง ผมเพิ่งได้ข่าวเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2554 ว่า โมเมได้ถูกคนมาล่อลวงไปเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2554 ตอนนั้น ผมรู้สึกตกใจและเสียใจมาก

     โมเม อายุ 13 ปี ผิวขาว สูงประมาณ 150 ซม. ไม่ค่อยพูด ถ้าตกใจ หรือกลัวจะแอบไปร้องไห้ ขี้น้อยใจ

     โมเม เป็นเด็กพิเศษ มีอาการไม่เหมือนเด็กปกติโดยทั่วไป เพราะตอนเด็กๆเคยจมน้ำตอนที่ตามพี่ไปดูน้ำท่วม จะว่าไปแล้วเหมือนตายไปแล้วครั้งนึง ผมได้รู้เรื่องนี้ตอนไปเป็นเพื่อนพี่คนหนึ่งที่เป็นครูประจำชั้นของโมเมตอน ป.6 ผมยังได้แนะนำให้ผู้ปกครองพาโมเมไปเรียนที่โรงเรียนพิษณุโลกปัญญานุกูล เผื่อการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับเด็กพิเศษจะได้ทำให้โมเมกลับมาใช้ชีวิตเหมือนกับเพื่อนๆที่ปกติได้ แต่ผู้ปกครองมีความเป็นห่วงว่า ต้องไปไกลจากบ้าน เลยไม่ได้ให้ไป

ประกาศคนหาย

     เมื่อปลายปีการศึกษาที่แล้ว โมเมและผู้ปกครองมาร่วมงานปัจฉิมนิเทศของนักเรียน ป.6 และ ม.3  ผู้ปกครองบอกว่า จะไม่ให้โมเมเรียนแล้ว เพราะเกรงใจครู (เนื่องจากรู้ตัวว่า โมเม ไม่เหมือนเด็กๆปกติทั่วไป) และจะให้โมเมช่วยงานอยู่ที่บ้าน หลายคนที่มาร่วมงานก็ไม่เห็นด้วย เพราะเท่ากับว่าไม่ได้พัฒนาตนเองเลย อย่างน้อยๆ ก็มาเรียนกับเพื่อน เรียนรู้การใช้ชีวิตในสังคม (ผมคิดถึงครูสมพรคนสอนลิง คนเรายังสอนลิงให้เรียนรู้อะไรได้มากมาย นี่คนทั้งคน ลิงพูดไม่ได้ยังสอนได้ นี่คนพูดได้ สอนได้ ถ้าสอนไม่ได้ ก็ไม่ต้องมาเป็นครูแล้ว) ในตอนนั้น แม่ของโมเมยังตัดสินใจไม่ได้ แต่ก็ถูกหลายคนในที่นั่นพูดให้ความเห็น โมเมเลยรู้สึกว่าตนเองถูกกดดัน จนร้องไห้ออกมา

     ผมดีใจ ที่สุดท้ายแล้ว พ่อแม่ของโมเม ตัดสินใจให้โมเมเรียนต่อ ม.ต้น ซึ่งเป็นการศึกษาภาคบังคับ

     ผมใช้เกณฑ์การประเมินที่แตกต่างจากเด็กทั่วไปเล็กน้อย แต่ทำการทดสอบเหมือนกับเด็กปกติทุกอย่าง สิ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจคือ เด้กนักเรียนชายคนหนึ่งที่ชอบว่าโมเมว่า "ปัญญาอ่อน" เด็กคนนั้นยังสอบได้คะแนนน้อยกว่าโมเม (ผมตรวจข้อสอบปรนัยแบบเติมคำโดยไม่ดูชื่อนักเรียนก่อนตรวจ เมื่อตรวจแล้วค่อยนำมาลงในตารางคะแนนตามชื่อ) สิ่งนี้เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่า "คนเรา เรียนรู้และฝึกหัดได้" ...ขึ้นอยู่กับว่า อยากจะเรียนรู้ หรืออยากได้ความรู้ อยากได้วิชาหรือไม่

     ผมพยายามให้โมเมร่วมกิจกรรมทุกอย่างกับเพื่อนตามปกติ โดยให้เพื่อนช่วยเหลือ และในบางโอกาส ก็ให้เพื่อนๆพึ่งพาโมเมบ้าง ผมเองแกล้งเล่นเกมแพ้โมเมเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเค้าหลังจากนั่งสมาธิแล้วบอกว่า "เห็นไหม การนั่งสมาธิทำให้เก่งขึ้น" ผมพยายามดึงโมเมมาเข้าชุมนุมนักคิด เพราะต้องการให้ได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง โมเมเป็นเด็กที่มีความคิด เพียงแต่ต้องได้รับการกระตุ้นให้ถูกวิธีเท่านั้นเอง ผมอาจเป็นครูธรรมดาคนหนึ่ง แต่สำหรับเด็กทุกคน ผมถือว่าเป็นลูก เพราะถ้าเราไม่รักพวกเขา แล้วเราจะมอบความรู้ทุกอย่างให้กับพวกเขาได้อย่างไร ในขณะเดียวกัน ผมเองก็ได้รับอะไรหลายๆอย่างกลับคืนมา ทั้งความไว้ใจของเด็กๆ ความรัก ความนับถือ เด็กผู้ชายบางคนขึ้นมานวดให้ในตอนกลางวัน บางคนก็มาบอกข้อมูลว่าใครไปทำอะไรเสี่ยงๆที่ไหน ใครคบกับใคร สำหรับโมเม... เธอได้ตัดรูป "แพนเค้ก" เอามาให้ผม ซึ่งครั้งแรกคือปลายเดือนมิถุนายน (ในวันเกิดของผม) ผมก็งงว่า โมเมเอามาให้ทำไม แต่พอนึกขึ้นได้ว่า เคยพูดกันเล่นๆในกลุ่มชุมนุมนักคิดว่าชอบแพนเค้กมาก.. (และหลังจากนั้น โมเมก็ตัดรูปเอามาให้อีกหลายรูป ทั้งจากนิตยสารดารา และหนังสือพิมพ์)

ประกาศนักเรียนหาย

     ผมอาจเขียนอะไรมากมายไปกว่าการประกาศหาคนหาย นั่นเพราะความต้องการจะบอกความรู้สึกว่า ผมเสียใจ ถ้าน้ำไม่ท่วมจนโรงเรียนปิด จนรถจักรยานยนต์ขี่เข้าไปไม่ได้ โมเม คงไม่หายตัวไป

     ทุกวันนี้ผมวิงวอนต่อสิ่งศักดิ์ ขอให้โมเมได้กลับคืนมา

     อันนี้ ผมถ่ายไว้เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2554 ขณะที่นักเรียน ม.1 ทดลองกิจกรรมวิทยาศาสตร์ มีภาพที่ค่อนข้างชัดเจน ยังไงช่วยกันหน่อยนะครับ

 

    

รูปเมื่อกิจกรรมวันภาษาไทยโดยครูณัฐมน

ฝากด้วยนะครับ รบกวนช่วยส่งต่อ รบกวนช่วยโพสต์ข้อมูลต่อๆกันไปนะครับ กราบขอบพระคุณล่วงหน้าครับ ส่วนข้อมูลการติดต่อ ผมต้องขอไปปรึกษาพ่อแม่ของโมเมก่อน ยังไงช่วงนี้รบกวนส่งข้อมูลที่ dr_champ_pt8@yahoo.com และ http://www.facebook.comก่อนนะครับ ตอนนี้พอทราบคร่าวๆว่า ออกช่อง 3 และ ช่อง 7 แล้ว ยังไงรบกวนช่วยด้วยนะครับ

 

     


 

สะพานบุญ

รวมสาระ  counter Powered by www.seal2thai.org   ดินแดนปัญญาชน