ผู้เขียน หัวข้อ: พระประวัติของ เสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพรฯ  (อ่าน 5241 ครั้ง)

redrose

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 7
    • ดูรายละเอียด
 
   
       พระประสูติกาล พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์ (ต้นราชสกุล อา???ากร) ทรงเป็น พระเจ้าลูกยาเธอ
ในพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาล ที่ ๕ นับลำดับ ราชสกุลวงศ์เป็นพระองค์ที่ ๒๘ มีพระนามเดิมว่า "พระองค์เจ้าอา???ากรเกียรติวงศ์" ประสูติใน พระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๒๓ ตรงกับวันอาทิตย์ แรม ๓ ค่ำ เดือนอ้าย ปีมะโรง จุลศักราช ๑๒๔๒ เวลา ๑๔.๕๗ และทรงเป็น พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์ที่ ๑ ในเจ้าจอมมารดาโหมด ธิดาเจ้าพระยาสุยาสุรวงศ์ ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค) พระองค์ทรงมีพระกนิษฐา และพระอนุชา ร่วมพระมารดา ๒ พระองค์ คือ พระองค์เจ้าหญิงอรองค์อรรคยุพา (สิ้นพระชนม์เมื่อทรงพระเยาว์) และพระองค์เจ้าสุริยงประยุรพันธ์
        รายละเอียด พระประวัติ   พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอา???ากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
        พระประสูติกาล วัน ๑ ฯ๓ ๑ ค่ำ ปีมะโรงโทศก จุลศักราช ๑๒๔๒ วันนี้เวลา บ่าย ๓ โมง ๕๗ มินิต ของวันอาทิตย์ที่
๑๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๒๓ เจ้าจอมมารดาโหมดทรงประสูตรพระเจ้าลูกเธอเป็นพระองค์ชาย ทรงเป็นพระโอรสลำดับที่ ๒๘ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงประสูติในพระบรมมหาราชวัง และทรงเป็น พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์ที่ ๑ ในเจ้าจอมมารดาโหมด ธิดาเจ้าพระยาสุรวงศ์ ไวยวัฒน์ หรือ เจ้าคุณทหาร(วร บุนนาค) และเป็นหลานปู่ของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง) ผู้ทรงสำเร็จราชการแผ่นดิน เมื่อต้นรัชกาลที่๕ ซึ่งขณะนั้นทรงมีชีวิตอยู่และเป็นพระบรมญาติอันยิ่งใหญ่ ควรเป็นที่คำนับในพระบรมราชวงศานุวงศ์ทั้งปวง พระเจ้าลูกยาเธอพระองค์นี้จึงได้รับพระราชทานนามว่า พระองค์เจ้าอา???ากรเกียรติวงศ์ ตามราชทินนามของสมเด็จเจ้าพระยาฯ (โดยพระนามว่า อา???ากรเกียรติวงศ์ นั้นได้ทรงมีการถวายพระนามนี้ขึ้นจากพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) เจ้ากรมพระอาลักษณ์ ปราชญ์ในทาง???าษาไทยและบาลีของราชสำนักผู้แต่งโดยให้ความหมายของพระนามว่าดังนี้
          (อา???ากร= พระอาทิตย์ = สุริยะ) และมีสร้อยพระนามว่า เกียรติวงศ์ เป็นการย้ำว่านามนี้เป็นเกียรติยศแก่วงศ์ตระกูลซึ่งก็หมายถึง สกุลบุญนาค และพระองค์ท่านนั้นทรงมีพระกนิษฐา และพระอนุชา ร่วมพระมารดา ๒ พระองค์ คือ พระองค์เจ้าหญิงอรองค์อรรคยุพา (สิ้นพระชนม์เมื่อทรงพระเยาว์) และพระองค์เจ้าสุริยงประยุรพันธุ์ (???ายหลังทรงกรม เป็น กรมหมื่นไชยาศรีสุริโย???าส ต้นราชสกุลสุริยง)ซึ่งก็หมายถึงพระอาทิตย์เช่นกันเมื่อปี๒๔๒๗

หมายเหตุ:

๑.ร.ศ.นั้นคิดจาก ๒๓๒๔ ลบกับปี พ.ศ.นั้นก็จะได้เป็น ร.ศ. เช่น ๒๔๓๖ - ๒๓๒๔ (ร.ศ.๑๑๒)
๒. ปฏิทิน สมัยก่อนนั้นจะนับวันที่ ๑๓ เมษายนเป็นวันขึ้นปีใหม่ไทยในสมัยนั้น ถ้านับเป็นปัจจุบันก็ต้องเป็นอีกปีหนึ่งนะครับ ยกตัวอย่างเช่น วันที่ ๕ มกราคม ๒๔๓๕ (ทรงโสกันต์ หรือ โกนจุก) เป็นปฏิทินปัจจุบันคือ วันที่ ๕ มกราคม ๒๔๓๖

ทรงศึกษา

เมื่อเสด็จในกรมหลวงชุมพรฯ ยังทรงพระเยาว์ ทรงได้รับการศึกษาชั้นแรก ในพระบรมมหาราชวัง มีพระยาอิศรพันธ์โส???ร (พูน อิศรางกูร) เป็นพระอาจารย์ และทรงศึกษา ???าษาอังกฤษกับ Mr.Morant ซึ่งเป็นชาวอังกฤษ และได้ทรงเข้าเป็นนักเรียน ในโรงเรียนหลวง ณ พระตำหนักสวนกุหลาบ อยู่จนถึงทรงโสกันต์

      ในปี พ.ศ. ๒๔๓๖ เมื่อเสด็จในกรมหลวงชุมพรฯ ทรงมีพระชนมายุได้ ๑๓ พรรษา พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้เสด็จในกรมฯ เสด็จไปทรงศึกษาต่อ ณ ประเทศอังกฤษ พร้อมกับ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ซึ่งในขณะนั้น ทรงดำรงพระอิสริยศักดิ์เป็น สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ โดยมีเจ้าพระยา พระเสด็จสุเรนทราธิบดี เมื่อครั้งมีบรรดาศักดิ์ เป็นสมเด็จพระมนตรีพจนกิจ เป็นพระอ???ิบาล ได้เสด็จออกจากกรุงเทพฯ โดย ร.ล.มกุฎราชกุมาร (ลำที่ ๑ )
      เมื่อ ๒๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๓๖ ไปยังสิงคโปร์ ต่อจากนั้น ได้ทรงโดยสารเรือเมล์ ชื่อ "ออเดรเบิด" ไปถึงเมืองตูรินในอิตาลี เมื่อวันที่ ๔ ตุลาคม แล้วเสด็จโดยทางรถไฟ ไปยัง กรุงปารีส และลอนดอนตามลำดับ ในขั้นแรก เสด็จในกรมฯ ได้เสด็จประทับ ร่วมกับ พระบาทสมเด็จ พระมงกุฎเกล้าฯ ที่ "ไบรตัน" และ "แอสคอต" เพื่อทรงศึกษา???าษา และวิชาเบื้องต้น เสด็จในกรมฯ ได้เคยตามเสด็จ พระบาทสมเด็จ พระมงกุฎเกล้าฯ ไปเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถ วิคตอเรีย ที่พระราชวังวินด์เซอร์ ตลอดจนตามเสด็จ ไปทัศนศึกษาทั้งในอังกฤษ และประเทศในยุโรป จนกระทั่งถึงวันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๓๘ เสด็จในกรมฯ จึงเสด็จไป เข้าโรงเรียนส่วนบุคคล สำหรับกวดวิชา เพื่อเตรียมเข้าศึกษา ในโรงเรียนนายเรืออังกฤษ ต่อไป โรงเรียนที่ทรงไปกวดวิชานี้มีชื่อว่า The Seines ตั้งอยู่แขวงกรีนิช ทางตะวันออกเฉียงใต้ ของกรุงลอนดอน มีนาย Littlejohns เป็นครูใหญ่ ผลการศึกษานี้ พระอ???ิบาล ได้ทรงกราบบังคมทูลรายงานว่า
     "... ความรู้???าษาอังกฤษดีขึ้นตามธรรมดา แต่วิชากระบวนทหารเรือชั้นต้น ก็วิ่งขึ้นเร็วตามสมควร แต่การเล่นแข็งแรง เช่น ฟุตบอล เป็นต้น นับว่าเป็นชั้นยอดของโรงเรียน เกือบว่าไม่มีใครอาจเข้าเทียบเทียม..."

ทรงศึกษาในโรงเรียนนายเรืออังกฤษ
       เมื่อเสด็จในกรมฯ ทรงกวดวิชาแล้ว จึงเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนนายเรืออังกฤษ ในราวปี พ.ศ.๒๔๙๓ การศึกษา ในโรงเรียนนายเรือ ของอังกฤษนั้น จะต้องฝึกหัดศึกษา หลับนอน อยู่ในเรือ ประมาณ ๓-๔ เทอม เมื่อสอบความรู้ได้แล้ว จะมีฐานะเป็น นักเรียนทำการนายเรือ (Midshipman) และไปฝึกในเรือรบ ประจำกองเรือต่างๆ อีกประมาณ ๑-๒ ปี และก็จะทำการสอบ เพื่อเป็นนายเรือตรี ต่อจากนั้น ศึกษาต่อ ในมหาวิทยาลัยทหารเรือ โรงเรียนปืนใหญ่ และโรงเรียนตอร์ปิโด จนได้เลื่อนยศเป็นเรือเอก เท่ากับนายทหารรุ่นเดียวกัน เมื่อเสด็จในกรมฯ ทรงเป็นนักเรียนทำการนายเรือ ในราชนาวีอังกฤษ ทรงเล่าว่า "...เมื่อเป็นนักเรียนทำการนายเรือ ในราชนาวีอังกฤษ ได้มีโอกาสขึ้นทำการปราบจลาจล ที่เกาะครีท ที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นเวลาราว ๓ เดือน ต้องนอนกลางดิน กินกลางทราย หนาวก็หนาว ในสนามรบ ต้องนอนกับศพที่ตายใหม่ๆ และบางคราว ซ้ำยังอดอาหาร ต้องจับหอยทาก มาเสวยกับหัวหอม ศพที่ถูกยิงที่ท้องนับว่าเหม็นร้ายกาจมาก ถึงจะเป็นศพตายใหม่ๆ ก็ตาม..." รวมเวลาที่เสด็จในกรมฯ ทรงศึกษาอยู่ในราชนาวีอังกฤษ ๖ ปีเศษ

       ในขณะที่เสด็จในกรมฯ ทรงเป็นนักเรียนนายเรือ อยู่ที่ประเทศอังกฤษนั้น ประจวบกับ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ เสด็จประพาสยุโรป เป็นครั้งแรก เมื่อ พ.ศ.๒๔๔๐ เสด็จในกรมฯ ทรงขอลาทางโรงเรียน มารับเสด็จ สมเด็จพระบรมชนกนาถ โดยเข้าร่วมกระบวนเสด็จ ที่เกาะลังกา จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รับตำแหน่ง นักเรียนนายเรือ ในเรือพระที่นั่งมหาจักรี ???ายใต้การบังคับบัญชา ของผู้บัญชาการเรือ และได้ทรงถือท้าย เรือพระที่นั่งมหาจักรี ด้วยพระองค์เอง เพื่อทรงแสดงความสามารถ ให้ปรากฏแก่พระเนตร สมเด็จพระบรมชนกนาถ นอกจากนั้น ในลายพระหัตถเลขาของ พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าฯ ที่พระราชทาน สมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ ได้กล่าวถึง เสด็จในกรมฯ ความว่า
     

  ติดตามตอนต่อไป ในเร็วๆนี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 ตุลาคม, 2013, 09:55:37 am โดย redrose »